เมื่อผมซื้อสาวบริการครั้งแรก และครั้งสุดท้ายในชีวิต! เธอให้ข้อคิดมากมาย โดยที่ไม่ได้เอ่ยปากสอนซักคำ


สำหรับท่านชายคนไหนที่กำลังใช้ชีวิตสนุกสนาน โลดแล่นอยู่บนเส้นทางความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืน หรือแม้แต่หนุ่มๆหน้าใหม่ที่อยากเข้าไปลิ้มลองสักครั้ง เราอยากขอให้คุณได้อ่านเรื่องราวต่อไปนี้ก่อนนะคะ ไม่แน่ว่าค่ำคืนนี้ของคุณ อาจจะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายตลอดไป เหมือนชายคนนี้ก็ได้

เมื่อผมซื้อ"สาวบริการ" ครั้งแรก และ "--ครั้งสุดท้าย--"
ผมก็เป็นผู้ชายทั่วไปครับ ทำงานหาเงินเป็นธรรมดา แฟนไม่มีครับ หน้าตาก็ไม่ได้หล่ออะไรมากมาย ถือว่าเป็นธรรมดาเลยทีเดียว ชีวิตผมจะวนเวียนอยู่กับงานเป็นส่วนใหญ่ครับ ซึ่งงานที่ผมทำมันทำให้ผมเครียดมาก ต้องกินยาเคลายเครียด บวกกับที่ผมอยู่ตัวคนเดียวไม่มีคนที่ปรึกษาปัญหาเรื่องนี้(อยากระบาย) เลยต้องหาวิธีทำให้ตัวเองดีขึ้นซึ่ง
ผมลองมาทุกอย่างครับ ออกกำลังกาย กินอาหารที่อยากกัน เที่ยว ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ เว้นยาเสพติดที่ไม่เคยคิดจะลอง แล้ววันหนึ่งผมนั่งพักลางวันอยู่ ผมก็อยากลองใช้บริการ สาวไซด์ไลน์ดู โดยหาง่ายมากครับแค่เข้าไปในเว็บและนัดเจอ ค่าบริการที่ถูกที่สุดที่เห็นของเว็บนี้อยู่ที่ 1000 บาท สูงสุดก็ประมาณ 5000 บาท
ผมก็นั่งไล่ดูรายชื่อ บางคนก็โพสรูป บางคนก็บอกสัดส่วนครบเลย ตั้งแต่อายุ 19-40 ปีครับ ผมเลยลองเลือกใกล้ๆๆกับที่ทำงานเพราะไปมาสะดวก และไปเจอสาวคนนึงเลยลองนัดเจอวันนั้น..

ผมโทรไปหาเธอแปบเดียวเธอก็รับสายปลายสายเป็นเสียงผู้หญิงเราก็คุยกันประมาณว่า
ผม : โหลครับ
ญ : ค่ะ
ผม : A หรือเปล่าค่ะ
ญ : ไม่ใช่ค่ะ
ผม : อ่าวแล้วนี้ใครละค่ะ
ญ : B ค่ะ
ผม : อ่าวหรอ..หรือพี่โทรผิดนะ
ญ : ไม่ผิดค่ะนี้เบอร์ A ค่ะแต่ตอนนี้ B มีอีกเบอร์นึงเอาไหมค่ะรู้จักกัน
ผม : อ๋อ..แล้ว B ทำเดียวกันกะ A หรือเปล่าคะ
ญ : ค่ะ
ผม : B มีรูปไหมคะ?
ญ : ตามในลายเลยค่ะ
ผม : อ่อๆๆ งั้นปรกติเขานัดเจอกันที่ไหนละค่ะ..?
ญ : ที่ XXX ค่ะ
ผม : ได้ๆๆพี่จะเลิกงานแล้วเดียวไปเจอกันนะ
ญ : พี่หนูยังไม่ได้แต่งตัวเลย อีกครึ่งชั่วโมงนะ
ผม : ได้ค่ะๆ เดี๋ยวเจอกัน

สิ้นเสียงวางสายผมก็ไปรอที่นัดไป โดยที่นัดไว้ตอน 18.00 น. แล้วน้องB ก็เลสไปประมาณ 30 นาที เธอก็โทรมาหาจนได้มาเจอกัน รูปกับตัวจริงแตกต่างกันประมาณ 50% ดูคล้ำกว่ามาก และเธอแต่งตัวเหมือนโคโยตี้ใส่รองเท้าแตะมาหาผม ผมสีทอง ใส่บิ๊กอาย ฟันเหยินเห็นได้ชัด และทาปากแดงๆ สูงประมาณ 150 ได้
เธอคุยเก่งชวนผมคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปตลอดทางจนถึงโรงแรม โดยที่เธอคุยไปและกินขนมไปตลอดเวลา เธอก็ไม่ได้ดูสวย แต่ก็ไม่ได้ดูขี้เหร่ อยู่ในระดับปลานกลางๆ และโรงแรมที่พาไปเธอก็เป็นคนแนะนำ โดยเธอก็มีบัตรสมาชิกที่โรงแรมนั้นด้วย ผมขับรถเข้าไปโรงแรมนั้นมืดมากๆๆ มียายแก่ๆๆคนนึงนั่งอยู่ที่ม่านรูดด้านหน้านั้น และแกก็เอาทีวีมาตั้งดูละครไป เก็บตังค่าห้องไป ที่นั้มีประมาณ 10 ห้องใช้บริการอยุ่ 1 ห้องผมเห็นรองเท้าแตะประมาณ 3 คู่ รองเท้าผู้ชาย 2 คู่ได้ ผมเลยไปจอดห้องข้างๆนั้น ซื้อถุงยางอนามัยกับยายคนนั้นท่าทางใจดีมาก
แกยิ้มให้ผมและพูดคุยกับ B อย่างสนิทสนม เพราะเธอคงมาใช้บริการบ่อย ห้องที่นั้นเหมือนโรงแรมทั่วไป มีทีวี ห้องน้ำแบบโปรงใส และเตียง 1 เตียง พร้อมไฟสีออกม่วงๆๆดูมองไม่ค่อยจะเห็นเท่าไหร่ และที่สำคัญแอร์เย็นมากและปรับไม่ได้ Bเข้ามาและถอดเสื้อผ้าออกเหลือแต่กางเกงในกับยกทรง ผมก็ขอตัวอาบน้ำก่อนโดยที่เอากระเป๋าตังและเสื้อไปด้วย Bก็หันมาหัวเราะและบอกว่า "กลัวหายหรอ นู๋ไม่เอาไปหรอก และไม่หนีด้วย ตังนู๋ก็ยังไม่ได้"
ผมก็ยิ้มและไปอาบน้ำ ออกมาจากห้องน้ำเธอก็เปิดทีวีดูเพลงลูกทุ่งอยู่ ผมก็ถามว่าชอบเพลงลูกทุ่งหรอ เธอก็บอกว่าชอบ และก็แบมือขอตังก่อนทีจะมีไรกัน ผมก็จ่ายไปเธอก็พิจารณาอยู่นานเพราะกลัวจะเป็นแบงค์ปลอม ส่องกะไฟทั่วห้องและเธอก็วางตังไว้ที่หัวเตียง บราที่เธอใส่เป็นสีดำแบบบีกินนี่เหมือนกำลังจะไปว่ายน้ำมากกว่าจะเป็นเสื้อใน
เมื่อเสร็จกิจเราก็มานั่งคุยกันโดยที่ตัวผมเป็นคนที่ชอบคุยอยู่แล้ว บวกที่เธอเป็นคนที่คุยเก่งเหมือนกัน และเธอก็ถามผมตลอด"พี่เป็นเอดส์"เปล่าเนี้ย?? ผมก็บอกไปว่าไม่ได้เป็นพี่ป้องกันด้วย เพราะหล่อนจะให้ใส่ถุงตลอดเพราะเธอก็ไม่อยากเป็นแล้วเราก็มานั่งคุยกันและเธอก็เล่าตัวเองให้ผมฟังว่า..
เธอมีลูก 2 คนเป็นลูกสาว คนนึงอายุ 3 ขวด คนนึงอายุ 7 ขวดเธอส่งเข้าเรียนอยู่ตัวคนเดียว และเธอก็ต้องเรียนไปด้วยวันอาทิตย์แล้วที่เหลือเธอก็รับงาน 6 วัน เพื่อเก็บตังส่งไปให้ลูกๆๆที่บ้านนอก อยากให้ลูกสบายไม่ต้องลำบาคเหมือนตัวเอง แถมพ่อแท้ๆๆของเด็กสองคนนี้ก็ไม่สนใจ ติดการพนัน และติดคุกไปตามสภาพ เธอเลยต้องออกมาหาเลี้ยงตัวเองและลูก ผมก็สังเกตไปเห็นที่ท้องของเธอเห็นเหมือนเป็นรอยผ่า ก็เลยถามว่ารอยอะไรเธอบอกว่า รอยจากทำหมัน
แล้วเธอก็เอามือผมไปให้จับตรงหน้าท้องเธอ เลยถามว่าเจ็บไหม? เธอบอกว่าถ้ามีไรกันแรงๆก็เจ็บเหมือนกัน ในแววตาเธอที่เล่าให้ฟังเธอไม่มีความอายเลยแม้แต่น้อย มีแต่แววตาของความมุ่งมั่น แล้วมีกำลังใจและเธอก็บอกว่าอยากให้ปิดเทอมไวๆ เพราะอยากไปหาลูกๆ คิดถึงลูก ผมก็บอกเธอไปว่า "เวลามันผ่านไปเร็วเดี๋ยวก็ได้เจอนะ" เธอก็ยิ้มและมานอนที่ตักผม เธออายุประมาณ 24 ปี สาวตัวเล็กๆ ทำอาชีพขายบริการเลี้ยงลูก และเธอบอกผมว่า "หนูไม่เคยเล่าให้ใครฟังเลยนะ พี่เป็นคนแรกที่หนูเล่าให้ฟังนะเนี้ย"
เมื่อถึงจุดๆๆนี้ ผมเริ่มคิดหันมามองตัวเองว่า เราเที่ยวเพื่อสนุกนะเนี้ย กลับมาได้ความ ดราม่าแบบสุดๆๆซะงั้น !! มันทำให้ผมกลายเป็นไม่อยากเที่ยวไปเลย เลยขอลองครั้งนี้ครั้งแรกและเป็นครั้งสุดท้ายของครั้งนี้ ตอนแรกผมยังคิดเลยว่าโกหกผมหรือเปล่า เธอยังยืนยันเปิดรูปลูกสาวให้ดูทั้งสองคนหน้าตาเหมือนเธอมาก กำลังน่ารักกันเลย เละเธอถ่ายรูปหอมแก้มลูกทุกรูปด้วย เอ้ออออ ได้อะไรมากกว่าเที่ยวสาวไซด์ไลน์อีกนะเนี้ยเรา....
จนถึงตอนนี้ทำให้ผมนับถือในความรักของแม่ที่มีต่อลูกมากๆ และเธอก็บอกอยู่ว่าเธอไม่สามารถไปทำอาชีพอย่างอื่นได้ เพราะมันไม่พอกินพอใช้ กลัวลูกอดๆอยากๆ บวกกับคนที่บ้านเลี้ยงดูหลานก็ไม่ได้มีอะไร เธอเลยต้องเป็นสาวไซด์ไลน์เพื่อดำเนินชีวิต และเลี้ยงลูก
มันมีความสุขแปลกๆๆว่าไหม เวลาเห็นผู้หญิงคนนึงเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง โดยไม่สนใจว่าตัวเธอเองจะเป็นอย่างไร ผมว่าใครจะว่าอะไรเธอ ว่าเธอเป็นตัวอะไร เธอคงไม่สนใจเพราะเธอเป็นคนมีเป้าหมายชัดเจนว่า "อยากให้ลูกเรียนจบมัธยม" เมื่อถึงตอนนั้นจะทำงานอะไรค่อยว่ากัน ผมคุยกับเธอไปตลอดทางไปส่งเธอที่เดิม เธอขอเบอร์ผมผมเลยบอกเธอไปว่า "พี่ขอเที่ยวกับเธอเป็นคนแรกและคนสุดท้ายและ พี่กะว่าจะไม่เที่ยวแล้วละ" เธอก็ทำหน้าเฟลและก็ยิ้มให้ตามมาโบกมือและเธอก็ขับมอไซด์กลับบ้านไป

ผมไม่คิดว่าการเที่ยวของผมมันจะดึงเข้าดราม่าขนาดนี้ แต่เรื่องราวของคนๆนึงนี้มันดูยิ่งใหญ่มากเหมือน กุหลาบสีม่วงที่อยู่ในดงหนาม เธอให้ข้อคิดผมมากมายเลยโดยที่เธอไม่ได้สอนผมซักคำ และมันทำให้ผมมองเห็นด้านดีๆของชีวิตผู้หญิงคนนึง ที่เป็นสาวไซด์ไลน์ที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนหรือผมอ่อนต่อโลกเกินไปไม่เคยเที่ยว และพอมาเที่ยวแล้วเห็นอย่างงี้แล้วอ่อนไหว ไม่ม้างงง
แต่ที่รู้ๆๆอย่างนึงเลยคือ ครั้งแรกครั้งนี้และครั้งสุดท้าย จริงๆๆ ขอบคุณที่อ่านมาจนจบนะครับ

***หวังว่าทุกคนที่อ่าน อ่านเพื่อได้ข้อคิดนะครับ อ่านเพื่อจรรโลงใจ อ่านเรื่องราวประสบการณ์ที่ผมแค่อยาก"แบ่งปัน" ไม่ได้มีเจตนาจะดูถูกใคร หรือให้ใครมาดูถูกตัวผมเกี่ยวกับซื้อบริการนะครับ***
ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกๆชีวิต ที่ต้องก้าวเดินต่อไปในสังคมนี้นะคะ บางทีแค่คนเราปรับเปลี่ยนมุมมองกันเสียบ้าง ก็อาจจะทำให้พบมุมดีๆ เรื่องราวดีๆแบบนี้ก็ได้ โดยที่ไม่ต้องเอ่ยปากยัดเยียดกันเลย

ที่มา: http://news.boxza.com/view/30933 

Menu :

Popular Posts

Powered by Blogger.
 
thaihourlynews
Blogger Template by sellcheapcheap Share In syarom | Host In Blogger.com