ใส่เฮดการ์ดไปรร. ดช.ลมชัก ป้องกันอุบัติเหตุ เคยวูบล้มบ่อยๆ หัวแตก-หน้าปูด พ่อแม่ต้องเฝ้า! วอนจนท.รัฐช่วย


"น้องไอซ์" เด็กชายวัย 8 ขวบ ใส่เฮดการ์ดไปเรียนทุกวันป้องกันป่วยลมชักกำเริบ โดยมีพ่อแม่สลับกันมาเฝ้าไม่ห่าง เผยป่วยลมชักมาตั้งแต่ขวบเศษ พาไปหาหมอก็ให้ยามากิน-เอกซเรย์สมอง แต่ครอบครัวฐานะยากจนเลยต้องพากลับมาดูแลที่บ้าน ที่ผ่านมาเมื่อโรคกำเริบก็จะชักเกร็ง-หมดสติ บางครั้งล้มฟาดหัวแตก-เป็นแผลถลอก-ใบหน้าบวมปูด เคยมีอาการมากสุด วันละ 5 ครั้ง เลยซื้อเฮดการ์ดนักมวยมาให้ใส่ป้องกัน ส่วนครูก็จัดให้นั่งโต๊ะกับพื้น หวั่นอาการกำเริบแล้วร่วงลงมา ถ้าเข้าห้องน้ำต้องมีครู-เพื่อนประคองดูแลใกล้ชิด วอนหน่วยงานรัฐ-ผู้ใจบุญช่วยเหลือ ด้านน้องไอซ์ใจสู้โรคลมชัก เผยหากชักเกร็งมักล้มไปฟาดพื้นจนบาดเจ็บ แต่เมื่อมาใส่เฮดการ์ดก็พอช่วยได้


เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งมีเด็กชายใส่เฮดการ์ดของนักมวยมาเรียนหนังสือทุกวัน ภายในโรงเรียนวัดตะเฆ่ (ม่วงงามนุเคราะห์) หมู่ 6 ต.ม่วงงาม อ.เสาไห้ จ.สระบุรี จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบเป็นโรงเรียนสอนระดับชั้นประถม ภายในห้องเรียนชั้น ป.2 พบครูกำลังสอนหนังสือนักเรียนตามปกติ แต่มีนักเรียนชายอยู่คนหนึ่งใส่เฮดการ์ดของนักมวยสีแดงสะดุดตานั่งเรียนอยู่ในห้อง โดยนั่งโต๊ะขนาดเล็กแบบนั่งกับพื้น แยกออกจากเพื่อนนักเรียนคนอื่น จึงเข้าไปสอบถามทราบชื่อด.ช.ธิติพงษ์ แสงแก้ว หรือน้องไอซ์ อายุ 8 ขวบ นักเรียนชั้น ป.2 โดยมีนายสุริยา แสงแก้ว อายุ 33 ปี และนางน้ำอ้อย แสงแก้ว อายุ 33 ปี พ่อแม่น้องไอซ์ อยู่บ้านเลขที่ 7 หมู่ 1 ต.เริงราง อ.เสาไห้ นั่งดูแลลูกชายอยู่ไม่ห่าง


จากการสอบถามนายสุริยาเล่าถึงสาเหตุ ที่น้องไอซ์ต้องใส่เฮดการ์ดว่า ลูกชายป่วย เป็นโรคลมชัก โดยเริ่มมีอาการมาตั้งแต่อายุประมาณขวบเศษ จึงพาไปรักษาที่โรงพยาบาลสระบุรี แพทย์ได้ตรวจร่างกายและให้ยามากิน แต่สุดท้ายอาการลมชักก็ยังไม่ดีขึ้น ประกอบกับฐานะทางบ้านไม่ค่อยดีนัก จึงต้องพาน้องไอซ์กลับมาดูแลเองที่บ้านพัก โดยมีหมอแวะเวียนมาดูแลและตรวจร่างกายเป็นประจำ กระทั่งโรงพยาบาลสระบุรีส่งตัวน้องไอซ์ไปเอกซเรย์สมองและรักษาตัวที่ โรงพยาบาลราชวิถี กรุงเทพฯ แต่ด้วยภาระของครอบครัวจึงขออุนญาตหมอพาลูกชายกลับมารักษาตัวที่จ.สระบุรี เพื่อง่ายต่อการดูแล โดยผลการเอกซเรย์สมองออกมาพบเป็นโรคลมชัก หมอจึงส่งยารักษาใหม่มาให้


นายสุริยาเล่าต่อว่า สำหรับตนทำงานอยู่ที่โรงงานทำเครื่องสุขภัณฑ์ และภรรยาทำงานรับจ้างทั่วไป โดยครอบครัวมีลูกชาย 2 คน ลูกชายคนโตเรียนอยู่ชั้น ป.6 ร่างกายปกติดี ส่วนลูกคนเล็กคือน้องไอซ์ ปกติตนและภรรยาจะสลับกันมาเฝ้าดูอาการน้องไอซ์ที่โรงเรียนทุกวัน แต่ถ้าวันไหนภรรยาติดงานไม่สามารถมาเฝ้าลูกชายได้ ตนก็ต้องลางานมาดูแล เพราะที่ผ่านมาหากอาการโรคลมชักของลูกชายกำเริบจะถึงขนาดล้มทั้งยืนและหมดสติ บางครั้งล้มหัวฟาดพื้นหรือโต๊ะเรียน จนบาดเจ็บทั้งหัวแตก ใบหน้าบวมปูดและเป็นแผลถลอก จึงแก้ปัญหาด้วยการซื้อ เฮดการ์ดนักมวยมาให้ลูกชายใส่ เพื่อป้องกันอันตรายหลังเกิดโรคลมชักกำเริบ


"ที่ผ่านมาน้องไอซ์เคยโรคลมชักกำเริบและชักเกร็งมากถึง 5 ครั้งต่อวัน ทำให้ครูและเพื่อนต้องช่วยกันดูอยู่ใกล้ๆ ไม่ให้คลาดสายตา จนครูประจำชั้นต้องจัดโต๊ะเรียนให้กับน้องไอซ์โดยเฉพาะ เป็นโต๊ะขนาดเล็กแบบนั่งกับพื้น แทนโต๊ะเรียนที่ต้องนั่งกับเก้าอี้ เพื่อป้องกันหากอาการกำเริบแล้วอาจชักเกร็งล้มไปฟาดโต๊ะหรือเก้าอี้ แต่ก็ยังมีบางครั้งที่น้องไอซ์นั่งเรียนอยู่แล้ววูบเป็น ลมชักเกร็ง" พ่อน้องไอซ์กล่าว


นายสุริยาเล่าอีกว่า นอกจากตอนเรียนที่ต้องแยกโต๊ะพิเศษจากเพื่อนแล้ว หากน้องไอซ์ปวดปัสสาวะหรือต้องการเข้าห้องน้ำ ครูและเพื่อนต้องช่วยกันประคองเข้าห้องน้ำหลังโรงเรียน เพราะมีบางครั้งที่น้องไอซ์กำลังยืนปัสสาวะอยู่แล้วเกิดอาการโรคลมชักกำเริบ ทำให้ล้มหัวฟาดพื้นและขอบปูนจนบาดเจ็บมาหลายครั้ง หรือแม้กระทั่งขณะกำลังวิ่งเล่นอยู่กับเพื่อน โรคลมชักก็เคยออกอาการจนล้มฟุบไปนอนกองกับพื้น แต่โชคดีที่มีครูและเพื่อนช่วยกันดูแลอย่างใกล้ชิด ครอบครัวจึงอยากวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยว ข้องและผู้ใจบุญร่วมกันช่วยเหลือน้องไอซ์ เพื่อให้หายขาดจากโรคลมชัก ส่วนตัวก็ยังพร้อมที่จะอดทนสู้เพื่อลูก แม้ฐานะครอบครัวจะไม่ดี ซึ่งนี่คือทุกข์ของพ่อแม่ที่ลูกชายมีปัญหาและหาทางแก้ไขไม่ได้ ทำได้เพียงแต่รับยามาให้ลูกกิน แต่ยืนยันจะอดทนสู้เพื่อลูกต่อไป


ด้านน้องไอซ์เผยว่า ก่อนเป็นลมชักจะรู้สึกตัวดี แต่เมื่ออาการกำเริบจะหน้ามืดไม่ได้สติ ที่ผ่านมาหนูพยายามสู้กับโรคนี้มาตลอด แต่หนูสู้ไม่ได้ เพราะทุกครั้งที่อาการลมชักกำเริบก็จะหน้ามืดหมดสติไป แถมยังมีอาการชักเกร็ง โดยจะรู้สึกตัวอีกครั้งก็พบว่าตัวเองลงไปนอนชักเกร็งอยู่กับพื้นแล้ว ที่สำคัญบางครั้งยังล้มไปฟาดกับโต๊ะ เก้าอี้และพื้น จนบาดเจ็บใบหน้าบวมปูดและเป็นรอยถลอก ทำให้พ่อต้องไปหาซื้อเฮดการ์ดของนักมวยมาให้ใส่ป้องกัน แต่ยืนยันว่าหนูจะพยายามสู้กับโรคนี้ให้ถึงที่สุด

ที่มา...khaosod.co.th

Menu :

Popular Posts

Powered by Blogger.
 
thaihourlynews
Blogger Template by sellcheapcheap Share In syarom | Host In Blogger.com