กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เผยแพร่รายงานว่าด้วยสถานการณ์การก่อการร้ายเป็นรายประเทศ ประจำปี 2557 (Country Reports on Terrorism 2014) ซึ่งระบุว่ากลุ่มก่อความไม่สงบในภาคใต้ของไทย ไม่เกี่ยวข้องใด ๆ กับกลุ่มรัฐอิสลาม หรือไอเอส รวมทั้งไม่มีหลักฐานยืนยันว่ามีคนไทยเข้าร่วมกับกลุ่มดังกล่าว
รายงานดังกล่าวซึ่งนาง ทีนา เอส ไคดานาว เอกอัครราชทูตและผู้ประสานงานด้านการต่อต้านการก่อการร้าย กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ได้เผยแพร่เมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมาระบุว่า ไม่มีหลักฐานชี้ชัดให้เห็นถึงความเกี่ยวเนื่องกันของกลุ่มก่อความไม่สงบในภาคใต้ของไทย ซึ่งเป็นผู้มีเชื้อสายมาเลย์มุสลิมกับกลุ่มไอเอส หรือกับเครือข่ายก่อการร้ายระหว่างประเทศเครือข่ายอื่น และแม้ทางการไทยจะแสดงความเป็นห่วงว่ากลุ่มเครือข่ายก่อการร้ายข้ามชาติมีความเกี่ยวโยงกับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในภาคใต้ แต่ก็ไม่มีหลักฐานชี้ชัดในกรณีนี้เช่นกัน
รายงานของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ยังชี้ด้วยว่า การดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายในไทย ส่วนใหญ่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ชัดเจนว่าเป็นเรื่องของการก่อการร้ายจริง ดังนั้นผู้ที่ถูกลงโทษหรือถูกขับออกนอกประเทศ จึงมักเป็นผู้กระทำความผิดในแบบอื่นๆ ซึ่งมีความร้ายแรงน้อยกว่าการก่อการร้าย
ทั้งนี้ หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และหน่วยงานบางหน่วยของกองทัพที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีก่อการร้าย มีความสามารถในการตรวจจับ ยับยั้งและตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ดี แต่อย่างไรก็ตาม การโยกย้ายเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ความมั่นคงหลังการรัฐประหาร ส่งผลต่อความต่อเนื่องในการทำงานของผู้นำ ทำให้ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานเป็นไปอย่างจำกัด ทั้งมีการดำเนินภารกิจซ้ำซ้อนกัน ระหว่างหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย และหน่วยงานของกองทัพด้วย
รายงาน Country Reports on Terrorism 2014 ระบุอีกว่า ไทยเป็นแหล่งผลิตเอกสารปลอม ทั้งพาสปอร์ต ใบเกิด และบัตรประชาชน และแม้ไทยจะเริ่มตรวจสอบเครือข่ายการปลอมแปลงเอกสารดังกล่าว แต่ก็ยังไม่มีการดำเนินคดี ขณะเดียวกันก็ยังไม่ขยายวงไปตรวจสอบการปลอมแปลงเอกสารที่ไม่ใช่ของทางการ เช่น บันทึกทางการเงิน หลักฐานการศึกษา และเอกสารรับรองการจ้างงาน ทั้งการแลกเปลี่ยนข้อมูลของทางการไทยกับประเทศเพื่อนบ้านยังเป็นไปอย่างจำกัด